การเป็นสิว หรือมีอาการผื่นคัน ผื่นแพ้บริเวณผิวหนัง เราก็มักจะไปหาซื้อยามาทา แล้วยาในท้องตลาดที่จำหน่ายกันส่วนใหญ่ก็จะผลิตขึ้นจากสารสเตียรอยด์ กรอวิตามินเอ ที่ใช้สำหรับทาภายนอก ซึ่งในปัจจุบันก็มีจำหน่ายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบ ครีม เจล โลชั่น หรือขี้ผึ้ง และแต่ละรูปแบบของผลิตภัณฑ์ ซึ่งวิธีการใช้ก็แตกต่างกันออกไป
ยารักษาสิว ‘ชนิดผสมสเตียรอยด์’ เพราะเห็นผลเร็วทันใจ ใครได้ลองใช้เป็นต้องติดใจ แต่ควรใช้เป็นระยะเวลาสั้นๆ ไม่เกิน 7 วัน เพื่อระงับอาการสิวที่รุนแรงให้ทุเลาลงเท่านั้น หากใช้ต่อเนื่องยาวนานไม่เพียงจะไม่ลดปัญหาสิว แต่จะทำให้เกิดการสะสม จนสุดท้ายก็จะกลายเป็นสิวสเตียรอยด์ในที่สุด
สเตียรอยด์มีกลไกการทำงานดังนี้
1.เปลี่ยนสารเคมีที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ โดยไปยับยั้งการผลิตกรดอะราชิโดนิก (arachidonic acid) ซึ่งถ้าขาดสารตัวนี้ สารตัวอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดกระบวนการอักเสบจะไม่ถูกผลิตขึ้น ทำให้อาการอักเสบลดลง (การอักเสบคือกระบวนการที่ภูมิคุ้มกันร่างกายเข้าจู่โจมสิ่งแปลกปลอมและกำจัดออก
2.ทำให้เส้นเลือดฝอยหดตัวลง ซึ่งโดยปกติแล้ว ผิวบริเวณใดที่เส้นเลือดฝอยพองหรือขยายตัว จะแสดงให้เราเห็นเป็นอาการแดง ร้อนและบวม ดังนั้นถ้าทาตัวยาที่มีสเตียรอยด์ก็จะทำให้เส้นเลือดฝอยหดตัวและลดอาการร้อน บวม แดง ได้ทันที
3.เปลี่ยนแปลงระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย – สเตียรอยด์เปลี่ยนแปลงหน้าที่การทำงานของเซลล์ระบบภูมิคุ้มกัน และยังทำให้เม็ดเลือดขาวไม่สามารถรู้ได้ว่าอันไหนคือเซลล์แปลกปลอมของร่างกาย และทำให้มีความสามารถในการต่อสู้และกำจัดเซลล์แปลกปลอมได้ลดลง
ในยารักษาสิวและยาแก้แพ้หลายขนานมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ถ้าจำเป็น ไม่ควรใช้นานเกิน 3-7 วัน เพราะจะส่งผลให้ผิวและสุขภาพโดยรวมเสื่อมลง เพราะภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติความสามารถลดลง ทำให้อ่อนแอลงในระยะยาวและต้องพึ่งยาตลอดไปตราบที่ไม่สามารถฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตัวเองให้แข็งแรงขึ้นได้
การรักษาตามหลักทฤษฎีพอกสมุนไพรสดต้นตำหรับจันทร์สว่าง ให้ซึมผ่านผิวหน้าโดยการใช้สำลีเป็นสื่อ ซึมซับเข้าสู่รูขุมขน โดนทำหน้าที่ดังนี้
ให้ใบหน้าเกิดการผลัดเซลล์ที่เสื่อมสภาพจะค่อยๆหลุดออกไปจนกระกระทั่งผิวหน้านวล เนียนขาวสดใส เปร่งปรั่งปราศจากสิว ฝ้า จุดด่างดำ ริ้วรอยความเหี่ยวย่น รอยแผลเป็น จะแลดูอ่อนกว่าวัย อย่างหน้า อัศจรรย์ สมุนไพรสด เป็นสมุนไพรธรรมชาติ ที่สกัดด้วยวิธีที่ทันสมัยไม่มีสารเคมีที่กระทรวงสาธารณสุขควบคุม และสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิวผู้บริโภค
|
|
|